การลงทุนภายใต้ความไม่แน่นอน
ความไม่แน่นอนหมายถึงสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนผู้จัดการควรประเมินความแตกต่างของกระแสเงินสดที่คาดว่าจะได้รับ พวกเขาต้องประเมินว่า NV จะเป็นลบหรือ IRR จะน้อยกว่าต้นทุนของเงินทุน
เทคนิคทางสถิติสำหรับการวิเคราะห์ความเสี่ยง
ต่อไปนี้เป็นเทคนิคทางสถิติที่สำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง
การวิเคราะห์ความน่าจะเป็น
การวิเคราะห์ความน่าจะเป็นส่วนใหญ่หมายถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ ความน่าจะเป็นถูกวัดเป็นตัวเลขระหว่าง 0 ถึง 1 (โดยที่ 0 หมายถึงความเป็นไปไม่ได้และ 1 หมายถึงความแน่นอน)
มูลค่าปัจจุบันสุทธิที่คาดหวัง
มูลค่าปัจจุบันสุทธิที่คาดหวังสามารถหาได้จากการคูณมูลค่าเงินของเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ด้วยความน่าจะเป็น สมการต่อไปนี้อธิบายมูลค่าปัจจุบันสุทธิที่คาดหวัง -
โดยที่ ENPV คือมูลค่าปัจจุบันสุทธิที่คาดหวัง ENCFt คือกระแสเงินสดสุทธิที่คาดว่าจะได้รับในงวด t และ k คืออัตราส่วนลด
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็นการวัดทางสถิติของจำนวนที่ชุดของค่าแตกต่างจากค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับรากที่สองของค่าเฉลี่ยกำลังสองของผลต่าง ตัวอย่างเช่นปริมาณที่แสดงโดยจำนวนสมาชิกของกลุ่มที่แตกต่างจากค่าเฉลี่ยสำหรับกลุ่ม
การวิเคราะห์ความเสี่ยงในการตัดสินใจจัดทำงบประมาณทุนทำได้โดยการคำนวณค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าสัมประสิทธิ์การแปรผัน การวัดผลที่สำคัญในการวิเคราะห์ความเสี่ยงคือค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) และสามารถใช้ได้เมื่อโครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณามีเงินใช้จ่ายเท่ากัน คงที่ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานคือรากที่สองของความแปรปรวนและความแปรปรวนจะวัดความเบี่ยงเบนของกระแสเงินสดที่คาดไว้ สูตรคำนวณค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานจะเป็นดังนี้
$$ \ sigma \ left (X \ right) \: = \ sqrt {{\ sum_ {n = 1} ^ {N}} \: p_ {N} \: \ left (CF_ {N} - \ overline {CF } \ right) ^ {2}} $$
ที่ไหน -
σ = ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
P = ความน่าจะเป็นของการเกิดกระแสเงินสด
CF = กระแสเงินสด
ค่าสัมประสิทธิ์การเปลี่ยนแปลง
ค่าสัมประสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวข้องกับโครงการที่จำเป็นในการเปรียบเทียบและเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้เป็นสูตรคำนวณค่าสัมประสิทธิ์การแปรผัน -
การแจกแจงความน่าจะเป็นปกติ
ความเสี่ยงในการตัดสินใจลงทุนสามารถวิเคราะห์เพิ่มเติมได้โดยการแจกแจงความน่าจะเป็นปกติ ช่วยให้ผู้ตัดสินใจมีความคิดเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของค่าที่คาดหวังที่แตกต่างกันของ NPV ตัวอย่างเช่นหากความน่าจะเป็นที่จะมี NPV เป็นศูนย์หรือน้อยกว่านั้นต่ำนั่นหมายความว่าความเสี่ยงในโครงการนั้นน้อยมาก ดังนั้นการแจกแจงความน่าจะเป็นแบบปกติจึงเป็นเทคนิคทางสถิติที่สำคัญในการประเมินความเสี่ยงในธุรกิจ