การสังเคราะห์

เมื่อโตขึ้น ฉันรู้เสมอว่าฉันได้สัมผัสกับโลกที่แตกต่างจากคนอื่น แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม จนกระทั่งฉันสะดุดกับคำว่า "ซินเนสทีเซีย" ทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทาง ทันใดนั้น ผมก็ได้ชื่อมาจากวิธีการรับรู้โลกรอบตัวที่ไม่เหมือนใครและน่าทึ่งนี้
สำหรับฉัน ซินเนสทีเซียแสดงออกได้หลากหลายวิธี ตัวเลข ตัวอักษร เดือน และวันในสัปดาห์แต่ละตัวมีสีเฉพาะของตัวเองในใจของฉัน เกือบจะเหมือนกับว่ามันถูกกำหนดรหัสสี และฉันก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อมโยงสีบางสีเข้ากับแต่ละสี ความสัมพันธ์นี้แน่นแฟ้นมากจนรู้สึกเหมือนมีมาแต่กำเนิด ราวกับว่ามันเชื่อมโยงอยู่ในสมองของฉัน สำหรับฉัน เลข “1” จะเป็นสีขาวหรือเทาเสมอ, “2” คือสีเหลืองหรือสีเขียวอ่อน, “3” คือสีชมพู, “4” คือสีแดง, “5” คือสีน้ำเงิน, “6” คือสีเหลือง, “7” คือสีส้ม “8” คือสีเขียวเข้ม และ “9” คือสีเขียว
การเชื่อมโยงแบบเดียวกันนี้กับสีก็เกิดขึ้นเมื่อฉันฟังเพลงเช่นกัน โน้ตแต่ละตัวมีสีที่แตกต่างกัน และเมื่อนำมาเล่นด้วยกัน จะทำให้เกิดเป็นซิมโฟนีที่สวยงามและมีสีสัน เป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด มันเหมือนกับว่าจิตใจของฉันกำลังวาดภาพบนผืนผ้าใบด้วยสีที่สอดคล้องกับเสียงที่ฉันได้ยิน
เป็นเวลานานฉันคิดว่าทุกคนมีประสบการณ์ในโลกนี้ในลักษณะนี้ จนกระทั่งฉันเริ่มพูดคุยกับคนอื่น ๆ ฉันถึงได้รู้ว่าการรับรู้ของฉันนั้นพิเศษเพียงใด ฉันจำได้ว่าพยายามอธิบายสีที่ฉันเห็นให้เพื่อนๆ และครอบครัวฟัง และพวกเขาก็มองว่าฉันบ้าไปแล้ว
ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในสมองของฉัน ฉันรู้สึกขอบคุณซินเนสทีเซียเป็นของขวัญ มันทำให้ประสบการณ์ของฉันกับโลกใบนี้สดใสและสวยงามมากขึ้น และมันก็เป็นสิ่งที่ฉันไม่ยอมแลกกับสิ่งใด ฉันรู้สึกโชคดีที่ได้สัมผัสกับโลกในลักษณะนี้ และฉันหวังว่าการแบ่งปันเรื่องราวของฉัน คนอื่นๆ จะเข้าใจได้ดีขึ้นว่าซินเนสทีเซียคืออะไร และมันจะส่งผลต่อผู้ที่มีซินเนสทีเซียอย่างไร
สรุปได้ว่าซินเนสทีเซียเป็นวิธีการรับรู้โลกที่ไม่เหมือนใครและน่าทึ่งซึ่งส่งผลต่อบุคคลในรูปแบบต่างๆ เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่อาจอธิบายได้ยาก แต่ก็เป็นวิธีที่สวยงามและมีสีสันในการสัมผัสโลก สำหรับผู้ที่มีมัน สิ่งสำคัญคือต้องรับมันไว้เป็นของขวัญแทนที่จะเป็นภาระ และชื่นชมกับมุมมองที่ไม่ซ้ำใครที่มันนำมาสู่ชีวิตประจำวัน