อะไรคือสิ่งที่สกปรกที่สุดที่คุณเคยทำกับเด็กผู้ชายในช่วงวัยรุ่น?

Apr 29 2021

คำตอบ

Jan 08 2021 at 04:17

ฉันกับเพื่อน (ทั้งคู่อายุ 14 ปี) กำลังนอนค้างคืนที่บ้านเพื่อน แล้วเรื่องวัยรุ่น/ความเป็นชายก็เข้ามาเป็นประเด็น เราคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราจนถึงตอนนี้ และมันนำไปสู่การแสดงให้กันและกันเห็นและเปรียบเทียบว่าใครมีขนขามากกว่า ใครมีรักแร้เหม็นกว่า ใครมีกล้ามแขนใหญ่กว่า ฯลฯ ในที่สุด เราก็อยากเปรียบเทียบอวัยวะเพศ เราจึงดึงกางเกงลงและเห็นขนหัวหน่าวของเรา แต่พวกเราทั้งคู่ก็นิ่มมาก เพื่อวัดขนาด เราจึงเริ่มถูตัวเราจนแข็ง จากนั้นจึงเปรียบเทียบว่าอวัยวะเพศของใครยาวกว่า หลังจากนั้น เราก็เข้าสู่โหมดผู้ชายเต็มตัวและปล้ำกันแบบเปลือยกายเพื่อดูว่าใครเป็น "ผู้ชายที่ดีกว่า" หากคุณถูกตรึง คุณต้องรับผลที่ตามมา มันเริ่มจากผู้แพ้เลียเท้าของอีกฝ่าย จากนั้นเลียรักแร้ แล้วเลียหัวนม และสุดท้ายผู้แพ้ก็ต้องสัมผัสอวัยวะเพศของอีกฝ่าย ระหว่างการปล้ำ เราก็จะจงใจยัดเท้าของเราเข้าไปในหน้าของอีกฝ่ายหรือ "ล้ม" ทับอีกฝ่ายเพื่อให้อวัยวะเพศของเราถูไปตามร่างกายของอีกฝ่าย ฉันต้องช่วยตัวเองให้เพื่อนสำเร็จความใคร่เป็นเวลา 5 วินาที และเขาต้องเอาลิ้นแตะอวัยวะเพศของฉัน หลังจากที่เราสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนขึ้นมาเป็นเวลานาน เราก็ได้ถ้วยหนึ่ง และตัดสินใจว่าใครเสร็จก่อนต้องดื่มถ้วยนั้น เราเสร็จพร้อมกัน ดังนั้นเราจึงดื่มน้ำอสุจิที่ผสมกัน เราใส่เสื้อผ้า ดูหนัง และเผลอหลับไป เขาย้ายออกไปหลังจากนั้นหนึ่งปี แต่เราไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้อีกเลยตั้งแต่คืนนั้น

May 07 2020 at 02:37

*ไม่ใช่ของจริง - ตัวละครในจินตนาการที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ - คำเตือน: มีเนื้อหาทางเพศ*

ฉัน. ความประหลาด

ฉันชื่อเจสัน และฉันอายุ 15 ปี

ฉันไม่รู้ว่าแม่ของฉันเป็นอะไรไปในช่วงนี้ แต่แม่ของฉันทำตัว
แปลกๆ มาก แม้ว่าฉันเดาว่าแม่คงเป็นคนประหลาดมาโดยตลอด แม่และ
พ่อของฉันหย่าร้างกันตอนที่ฉันอายุ 6 ขวบ พ่อของฉันยังอยู่ แต่ฉันไม่ค่อยได้เจอ
เขาบ่อยนัก เขาเป็นพ่อประเภทที่ลืมวันเกิดของลูกชายแล้ว
ซื้อของขวัญราคาแพงให้เขาช้ากว่ากำหนดหนึ่งสัปดาห์โดยคิดว่าจะช่วยชดเชยให้ ฉันชิน
กับมันแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่รบกวนฉันมากนัก แต่ฉันบอกคุณไม่ได้ว่า
งานปาร์ตี้วันเกิดกี่งานแล้วที่จบลงด้วยน้ำตาเพียงเพราะเขาไม่เคย
มา

บางทีอาจเป็นเพราะพ่อของฉันละเลยจนทำให้ฉันกับแม่สนิทสนมกันมากขึ้น
หรือบางทีนั่นอาจเป็นเพราะว่าแม่เป็นคนแบบนั้น ตอนที่ฉันยัง
เด็ก โดยเฉพาะช่วงไม่กี่ปีแรกหลังหย่าร้าง ทุกครั้งที่พ่อ
พบวิธีใหม่ๆ ที่ทำให้ฉันผิดหวังและร้องไห้ แม่จะให้ฉันนอน
บนเตียงของเธอ และเธอจะกอดฉันไว้ในอ้อมแขน ปลอบโยนฉัน และกระซิบว่า
แม่รักฉันในขณะที่ฉันร้องไห้จนหลับไป

ฉันชอบนอนบนเตียงของแม่ตอนกลางคืน แม่มักจะนอนเปลือยกาย และ แม่ก็
ดูเหมือนจะไม่รู้สึกกังวลที่จะให้ฉันอยู่ใกล้ๆ ร่างกายเปลือยเปล่าของเธอใต้
ผ้าห่ม นั่นเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ฉันกำลังพูดถึงเมื่อฉันบอกว่าแม่เป็น
คนประหลาดเล็กน้อย แม่ไม่เคยเขินอายเกี่ยวกับร่างกายหรือเรื่องเซ็กส์ การเห็น
แม่เปลือยกายไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับฉัน และโดยปกติแล้ว
เราก็ไม่ได้รู้สึกละอายใจกัน แต่เมื่อใดก็ตามที่แม่ให้ฉันนอนบนเตียงกับแม่ ฉันคิดว่าฉัน
รู้คร่าวๆ ว่ามีบางอย่างต้องห้ามอยู่ใกล้ๆ ฉัน เมื่อฉันโต
ขึ้น ประมาณ 9 หรือ 10 ขวบ ความคิดนั้นทำให้ฉันแข็งเป็นบางครั้ง และหลังจากนั้น ฉัน
ก็เริ่มรู้สึกกังวลมากว่าแม่เผลอไปถูกับอวัยวะเพศของฉัน
และสังเกตเห็นการแข็งตัวของฉัน แม่ไม่เคยสังเกตเห็นเลยเท่าที่ฉันรู้

ครั้งหนึ่งเธอจับได้ว่าฉันมีอารมณ์ทางเพศ แต่ไม่ได้เกิดขึ้นบน
เตียงของเธอ เนื่องจากฉันไม่เคยขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ เมื่อฉันยังเด็กมาก แม่จะ
ตรวจเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศของฉันหดตัวอย่าง
ถูกต้อง เธอจะดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศออกเองหรือขอให้ฉันทำ
และแสดงให้เธอดู ฉันไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้มีเนื้อหาทางเพศ และฉัน
ก็ไม่คิดว่าเธอจะคิดแบบนั้นเช่นกัน แต่ครั้งหนึ่งเมื่อฉันอายุ 10 ขวบ ฉันกำลังอาบน้ำ
และด้วยเหตุผลบางอย่าง อวัยวะเพศของฉันก็แข็งตัว (สิ่งนี้เริ่มเกิดขึ้น
บ่อยมากในช่วงอายุนั้น) ฉันแค่พยายามเพิกเฉยต่อมันและรอ
ให้มันแข็งตัวอีกครั้ง (ฉันยังไม่ค่อยรู้วิธีช่วยตัวเอง
แม้ว่าฉันจะเล่นกับอวัยวะเพศของตัวเองในตอนกลางคืนอยู่บ่อยๆ) ทันใดนั้น แม่ของฉัน
ก็เข้ามาในห้องน้ำ แน่นอนว่าฉันไม่อยากให้แม่เห็นอารมณ์ทางเพศของฉัน ฉันจึง
ใช้มือปิดมันไว้ เมื่อเธอบอกว่าเธอไม่ได้ตรวจหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศของฉัน
มานานแล้วและขอให้ฉันแสดงให้เธอดู ฉันแทบตาย ฉันไม่อยาก
แสดงให้เธอเห็นในขณะที่ฉันแข็ง แต่ฉันก็ไม่อยากให้เธอรู้ว่าฉัน
แข็ง ดังนั้นฉันจึงพยายามหาข้ออ้างเพื่อเลื่อนเวลาออกไป แต่โชคไม่ดีที่
ไม่มีอะไรผุดขึ้นมาในหัว ฉันจึงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าฉันจะแสดงให้เธอเห็นในภายหลัง
แน่นอนว่าเธอคิดว่าฉันไร้สาระและบังคับให้ฉันเอาแขนออก

เมื่อเธอเห็นน้องชายของฉันโผล่ขึ้นมา เธอก็เข้าใจทันทีว่าทำไมฉัน
ถึงไม่อยากแสดงให้เธอเห็น และนี่คือจุดที่ด้านประหลาดของแม่ฉันแสดงออก
มา แม่บางคนอาจรู้สึกอายที่เห็นลูกชายตัวเล็กอยู่ใน
สภาพเช่นนี้และออกจากห้องน้ำไป คนอื่นอาจพยายามทำให้แน่ใจว่าพวกเขา
เข้าใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับเรื่องนี้และไม่ควร
รู้สึกอาย แต่แม่ของฉันแค่หัวเราะและเริ่มล้อเลียนฉัน มันไม่ได้ใจร้าย
เลย และหลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็อดหัวเราะไม่ได้
เช่นกัน แต่ฉันยังคงรู้สึกอับอายกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะเมื่อเธอยืนกรานให้ฉัน
ปล่อยให้เธอดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศกลับ แม้ว่าฉันจะอยู่ในสภาพนั้นก็ตาม

เมื่ออายุเท่านี้ หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศของฉันยังตึงมากเมื่ออวัยวะเพศแข็งตัว ดังนั้น
เมื่อแม่เริ่มดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศก็จะไม่ดึงกลับจนสุด ฉันบอก
แม่ว่าปกติแล้วไม่มีปัญหานี้เมื่อหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศนิ่ม และแม่ก็บอกว่าฉัน
ต้องดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเบาๆ ทุกครั้งที่หนังหุ้มปลายอวัยวะ
เพศแข็งขึ้น และในที่สุดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศก็จะคลายตัว แม่สอนฉันว่าต้องดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศกลับ
ให้สุดแล้วจึงค่อยดึงกลับขึ้นมาแล้วเริ่มใหม่ แม่ทำ
แบบนี้สองสามครั้ง และรู้สึกดีมากที่ได้ลูบมัน

ฉันไม่รู้ว่าช่วงเวลานี้เซ็กซี่สำหรับเธอแค่ไหน แต่ฉันคิดว่าเธอคง
หลงใหลในจุดแข็งเล็กๆ ของฉันอย่างแน่นอน เธอพูดอยู่เรื่อยๆ ว่ามันน่ารักแค่ไหน
แม้ว่าเธอจะไม่เคยแตะมันอีกเลยหลังจากนั้น แต่บางครั้งเธอก็
ล้อเลียนฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้

อย่างที่ฉันบอกไปแล้วว่าแม่ไม่เคยเขินอายเรื่องเซ็กส์ เธอพูดถึงเรื่องนี้
อย่างเปิดเผยมาก และสิ่งที่ทำให้เธอเป็นคนประหลาดในเรื่องนี้ก็คือ เธอ
ไม่รู้สึกละอายเลยที่จะยอมรับว่าเธอมองว่าเด็กผู้ชายมีเสน่ห์ แม้แต่
เด็กวัยรุ่นและก่อนวัยรุ่น เธออาจไม่ได้พูดเรื่องนี้กับ
ทุกคนอย่างเปิดเผย แต่ฉันจำได้ว่าได้ยินเธอพูดจาเปิดเผยกับ
เพื่อนๆ ของเธอ ซึ่งค่อนข้างจะเปิดเผยเกินไป มันอธิบายได้ยาก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอ
สามารถอธิบายให้ฟังดูไม่หยาบคายหรือน่าขนลุก
เช่น เธอแค่ชื่นชมความงามและความเยาว์วัยของเด็กผู้ชาย โดยไม่
ดูเหมือนว่าเธอต้องการล่วงละเมิดพวกเขา

เมื่อฉันเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นตอนต้น ฉันเริ่มมองเห็นได้ชัดเจน
ว่าตัวเองเป็นเกย์หรือไบเซ็กชวล เพราะฉันเริ่ม
สนใจเด็กผู้ชายในวัยเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าแม่ของฉันจะเปิดเผยเรื่องนี้ แต่ฉันก็ยังคง
เก็บความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ไว้กับตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่ในที่สุดฉันก็เปิดใจ
กับแม่ และเราก็คุยกันอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับ
ความต้องการทางเพศของฉันที่เริ่มก่อตัวขึ้น นั่นเป็นเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่ฉันอายุ 14 ปี

และตอนนี้ หลังจากคำนำที่ค่อนข้างยาวนั้น เราก็มาถึงส่วนที่น่าสนใจของ
เรื่อง ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงที่ฉันสังเกตเห็นในพฤติกรรมของแม่ซึ่ง
ฉันได้กล่าวถึงในตอนต้น เมื่อแม่รู้ว่าฉันสนใจ
ผู้ชาย แม่ก็ตื่นเต้นมาก ฉันรู้ว่านั่นไม่ใช่ปฏิกิริยาแบบที่
คุณคาดหวังจากแม่ แต่ดูเหมือนว่าแม่จะมองว่ามันเป็นเรื่องที่เรา
มีร่วมกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม่ก็ยิ่งเปิดใจมากขึ้นเกี่ยวกับความสนใจ
ในผู้ชายอายุน้อย เธอมักจะถามเกี่ยวกับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมชั้นของฉัน อยาก
รู้ว่าฉันสนใจคนไหนบ้างและอยากทำอะไรกับ
พวกเขา บางครั้ง ฉันรู้สึกว่าเธอรู้สึกถูกดึงดูดใจมากกว่า
ฉันเสีย อีก

ฉันอายุครบ 15 ปีเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าฉันจะสนใจผู้ชายที่
อายุเท่ากันเป็นส่วนใหญ่ แต่แม่ของฉันกลับสนใจแต่เด็กผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเรื่อยๆ
แม่คอยชี้ให้เห็นเด็กผู้ชายที่เธอคิดว่าเซ็กซี่ ไม่ว่าจะในทีวี
ในนิตยสาร หรือบางทีก็ในชีวิตจริง เด็กผู้ชายหลายคนดูเหมือน
ยังไม่ถึงวัยรุ่นด้วยซ้ำ

ตอนแรกฉันรู้สึกแปลกๆ เมื่อเธอชี้ไปที่เด็กผู้ชายที่ฉันคิดว่า
เด็กเกินไปสำหรับฉัน เมื่อฉันบอกเธอว่าพวกเขายังเด็กเกินไป เธอก็จะดูผิดหวัง
และเลิกสนใจ แต่เมื่อไม่นานมานี้ เธอเริ่มสนใจทิม เด็กชายอายุ 11 ขวบที่น่ารัก
ซึ่งอาศัยอยู่ตรงข้ามถนนจากบ้านเรา แม่และแม่ของทิมไม่
ได้สนิทกันมากนัก แต่พวกเขารู้จักกันดีพอที่จะ
ไปดื่มชาด้วยกันหรือทำอะไรก็ได้ และบางครั้งทิมก็ไป
กับแม่ของเขาด้วย เขาและฉันเข้ากันได้ดี แม้ว่าความแตกต่างของอายุ
จะทำให้เราไม่มีความสนใจที่เหมือนกันมากนัก เมื่อเขามา
กับแม่ของเขา เรามักจะลงเอยด้วยการเล่นวิดีโอเกมหรือดู
ทีวี

ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม่เริ่มพูดถึงว่า
ทิมตัวเล็กเซ็กซี่แค่ไหน ตอนแรกฉันแค่กลอกตาและคิดว่า "เอา
อีกแล้ว" แต่หลังจากนั้น ฉันก็อดสังเกตไม่ได้ว่า
ทิมหล่อมากขนาดไหน เขามีผมสีเข้มแต่ตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็น
สีที่หายากที่ทำให้เขามีบุคลิกที่จริงจัง ฉันต้องยอมรับว่าเขา
หน้าตาดี แม้ว่าฉันจะยังคิดว่าเขายังเด็กเกินไปสำหรับฉัน แต่แม่ก็ยัง
ยืนกราน เธอบอกว่าฉันควรใช้เวลากับเขาให้มากขึ้นและชวนเขามาค้างคืนที่
บ้าน ซึ่งฉันคิดว่ามันไร้สาระ

ฉันบอกแม่ว่า "แม่ไม่เข้าใจหรอก เด็กวัยสิบห้าหรือ
สิบเอ็ดขวบไม่ค่อยได้ไปเที่ยวด้วยกันสักเท่าไหร่ คงจะ
ไม่เหมาะสมเลยถ้าแม่จะชวนเขาไปค้างคืนที่บ้าน คนอื่นคงคิดว่าฉันเป็น
พวกโรคจิตหรืออะไรทำนองนั้น"

“โอ้ ใครสนว่าคนอื่นคิดยังไง ฉันไม่ได้เลี้ยงเธอมาให้เป็น
คนยึดติดแบบนั้นหรอกใช่มั้ย”

“ลืมเรื่องเด็กคนอื่นไปเถอะ แล้ว
พ่อแม่ของเขาล่ะ คุณไม่คิดเหรอว่าพวกเขาจะไม่เห็นด้วย”

“แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ทำแบบนั้น เราเป็นเพื่อนบ้านกันมาหลายปีแล้ว”

ฉันยังไม่ค่อยเชื่อ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็
คิดแผน ขึ้นมา

“วันครบรอบแต่งงานของหลุยส์และเฮนรี่กำลังจะมาถึงแล้ว” เธอกล่าว “ฉันจะบอก
หลุยส์ว่าถ้าพวกเขาอยากจะใช้เวลาค่ำคืนโรแมนติกด้วยกัน เราสามารถพา
ทิมไปค้างคืนได้ เธอไม่จำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็ก และทิมสามารถค้างคืน
ที่นี่ได้ ดังนั้นพวกคุณสองคนจะได้รู้จักกันดีขึ้น ทุกคนชนะ!”

ฉันไม่แน่ใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ฉันต้องยอมรับ
ว่าความอยากรู้ของฉันถูกกระตุ้น

“แล้วคุณได้อะไรจากมัน” ฉันถาม

“ฉันแค่อยากให้เธอมีความสุขที่รัก ถ้าคุณมีความสุข ฉันก็มีความสุขด้วย” เธอ
แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ “และถ้าฉันโชคดี ฉันอาจจะ
จับได้ว่าคุณสองคนทำสิ่งที่ไม่ควรทำโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้”

“แม่! คุณนี่เหลือเชื่อจริงๆ”

II. การนอนค้างคืน

วันรุ่งขึ้น ฉันตื่นเต้นและหวาดกลัวเมื่อกลับถึงบ้านจากโรงเรียน
และเธอก็บอกฉันว่าเธอทำตามแผนอันแสนเจ้าเล่ห์ของเธอแล้ว ทิมจะมาที่นี่
หลังอาหารเย็นเพื่อใช้เวลาทั้งคืนและทั้งสุดสัปดาห์

เมื่อทิมโผล่มา เราก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองสามชั่วโมงตาม
ปกติ เช่น เล่นวิดีโอเกมและทำอะไรทำนองนั้น แม่ก็ยุ่งอยู่กับ
งานบ้าน แต่เมื่อใดก็ตามที่มีโอกาสและทิมไม่อยู่ในระยะที่ได้ยิน
เธอก็จะพูดถึงเรื่องต่างๆ เช่น ก้นเล็กๆ ของเขาช่างน่ารักเหลือเกิน ฉันเดาว่าฉัน
ก็กำลังอินกับเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ฉันก็ยังไม่ค่อยเชื่อว่า
จะเกิด อะไรขึ้น

หลังจากที่เราเบื่อกับการเล่นวิดีโอเกมแล้ว ทิมก็ถามว่าเราสามารถมาเล่น
ในห้องของฉันได้ไหม เรามีห้องเล่นเกมเล็กๆ ที่มีเครื่อง Xbox อยู่ ดังนั้นเขาจึง
ไม่เคยมาที่ห้องของฉันมาก่อน ที่นั่นไม่มีอะไรให้เขา
เล่นมากนัก เนื่องจากของเล่นเก่าๆ ของฉันส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ในกล่องที่
ห้องใต้หลังคามาสักพักแล้ว แต่เขาสนใจสิ่งของของฉันมากจริงๆ และ
นั่นทำให้เขาเพลิดเพลินไปสักพัก เมื่อฉันไม่มีอะไรจะให้
เขาดูอีกแล้ว ก็เกิดการหยุดชะงักอย่างอึดอัด เขาเห็นแล็ปท็อปของฉันและถามว่าเราสามารถ
ดูวิดีโอใน YouTube ได้ หรือไม่

เราทั้งคู่นั่งบนเตียงของฉันเคียงข้างกันโดยพิงหลังไว้กับผนัง ฉันวาง
คอมพิวเตอร์ไว้บนตักและเราเริ่มค้นหาวิดีโอตลก ๆ เขา
เอนตัวเข้ามาหาฉันเพื่อจะได้ดูหน้าจอให้ชัดเจนขึ้น สักพักหนึ่ง ฉันก็เกิด
ความคิดที่จะเอามือโอบรอบเขา แต่ก็ไม่กล้า

บางวิดีโอที่เราดูมีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กสาววัยรุ่น และ
บางครั้งเขาก็จะพูดถึงหน้าอกหรือลักษณะทางกายภาพอื่นๆ ที่เขาชอบ
การเลือกวิดีโอของเรานั้นขึ้นอยู่กับความเซ็กซี่ของเด็กสาว
ในวิดีโอมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันจึงได้รู้ว่าเขาสนใจเรื่องเซ็กส์อย่างเห็นได้ชัด และอาจจะ
หื่นเหมือนฉันตอนอายุเท่าเขา (และยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่แน่นอน) ฉันไม่
จำเป็นต้องทำอะไรเลยเพื่อผลักดันการสนทนาไปในทิศทางนั้น เขา
เต็มใจมากที่จะพูดเรื่องนั้นด้วยตัวเอง

“คุณเคยดูเว็บไซต์สกปรกบ้างไหม” เขาถาม

"คุณหมายถึงเหมือนหนังโป๊เหรอ?"

"ใช่."

“บางครั้ง แล้วคุณล่ะ?”

“ฉันเคยดูบางเรื่องกับไซม่อนเพื่อนของฉันครั้งหนึ่งตอนที่ไปค้างคืนที่บ้านเขา
ฉันไม่มีคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ดังนั้นจึงไม่สามารถดู
เว็บไซต์ลามกที่บ้านได้ เพราะไม่งั้นพ่อแม่ของฉันคงรู้”

คุณและเพื่อนของคุณดูเว็บไซต์ประเภทไหน?

“มีอันหนึ่งที่ดีมากๆ ซึ่งมีภาพผู้หญิงเปลือยจำนวนมาก ฉันไม่รู้ว่า
มันเรียกว่าอะไร”

"นั่นฟังดูเจ๋งดี"

“ใช่แล้ว คุณรู้จักอันไหนดีไหม?”

"ฉันรู้จักอยู่บ้างแหละน่า"

"อยากดูพวกมันตอนนี้มั้ย?"

"ตกลง."

I hesitated for a moment trying to decide which site to go to. From what he
had described, it didn't sound like he and his friend had looked at any
sites showing hardcore sex, which were the ones I liked the most. I didn't
know how much he knew about sex and I didn't want to freak him out. I was
trying to remember how much I'd been exposed to at that age. Finally I
decided to go to a site that had some straight hardcore action, but nothing
extreme or too weird.

As soon as the splash page loaded, I could tell that he was impressed. When
he saw the close up pics of huge cocks penetrating pussy, he got really
quiet and just starred in awe. When he noticed that the site was
advertising videos, he asked if we could look at some of those.

"We can," I said, "but it's just going to be excerpts. You have to pay to
see the full thing."

"That's okay. I just want to see what they're like. I've never seen videos
like this.

I clicked on one of the videos and it showed a white woman giving a black
dude a blow job. Of course, the guy's dick was humongous.

"Whoa! Look at how big that guy's dick is," Tim said. "Is that, like,
normal size for an adult?"

"I don't think so," I said. "These guys in pornos always have bigger than
average dicks. That's what makes them porn stars."

"I wonder if I'll have a big one like that when I'm older. Mine's pretty
small now."

"Maybe," I said. "It's pretty hard to tell at your age. You still have a
lot of growing to do."

"My friend Simon's is bigger than mine," he said.

"How do you know that?" I asked.

He blushed and looked really embarrassed for a second, realizing that he'd
let something slip he hadn't intended to share.

"We compared them while we were looking at those sites on his computer," he
said. "We both got hard while looking at them and he wanted to see whose
was bigger. His as really thick and a little bit longer than mine, even
though he's only a few months older than me."

"Well, that doesn't mean anything," I said. "He might have just hit puberty
earlier than you did. You might catch up to him and ever get bigger than
him in a year or two."

"Really? Cool."

I noticed that he was fidgeting a lot and I even caught him rubbing himself
a few times. It was obvious that he was hard and horny. My own cock was
also hard, and I wasn't entirely sure if it was from the videos we were
watching or from just knowing that this cute boy next to me was getting
turned on. The fact that he and his friend had looked at each other's dicks
before made me think that I could probably convince him that we should do
the same. I wondered if they had done anything more than look that time. I
was about to ask when there was a knock on my door. I barely had time to
stop the video that was playing. Mom only waited a second before she opened
the door and came in to announce that it was time to start getting ready
for bed.

I must have lost track of time, because I hadn't realized how late it
was. Of course, being older, I didn't really have a set bedtime, especially
on weekends. We didn't have a guest room, so I figured Tim would be
sleeping on the couch or something and I'd be able to stay up in my room
for a while, but then Mom said that Tim and I would be sharing my bed.

Tim didn't seem to mind at all. He went to the bathroom to brush his teeth
and I took the moment to talk to my mother alone.

"What are you doing?" I asked.

"What are you talking about?" she said, but she had a devilish smile on her
face that suggested she knew exactly what I meant. "We can't have him sleep
on the couch. It's not very comfortable."

"Well, maybe I should sleep on the couch and he can take my bed."

"Oh, don't be silly, Jason. Your bed is big enough for the two of you. And
I'm sure it'll be fun. What were you watching on the computer when I came
in."

"None of your business," I said with a smirk.

"Look," she said, more seriously this time, "I know I teased about catching
you guys in the act earlier, but don't worry. I'm not going to be spying on
you tonight. You have my word. You guys can do whatever you want tonight. I
won't get anywhere near your door unless the house is on fire."

"Whatever, Mom."

Tim had finished brushing his teeth, so I went into the bathroom to do the
same thing. When I came back to my room, he had changed into his PJs and
was sitting on the bed waiting for me. Mom came by again to say good night,
and then left us alone, closing the door on her way out.

“ฉันหวังว่าคุณคงไม่รังเกียจนะ” ฉันบอกกับทิม “แต่ฉันมักจะนอนในชุดชั้นใน”

“ไม่เป็นไร” เขากล่าว “ฉันก็เป็นเหมือนกัน แต่แม่บอกว่าฉันควรใส่
ชุดนอนเวลาไปค้างบ้านเพื่อน”

ฉันบอกว่า “ถ้าไม่อยากใส่ก็ไม่ต้องใส่ก็ได้” “
ใต้ผ้าห่มจะร้อนมาก โดยเฉพาะถ้านอนสองคน ถ้าคุณอยาก
นอนโดยใส่ชุดชั้นในก็ไม่เป็นไร”

ฉันเริ่มถอดเสื้อผ้าแล้ว ทิมจึงตัดสินใจทำแบบเดียวกัน
เขาถอดชุดนอนออก แล้วเราก็ยืนหันหน้าเข้าหากัน โดยแต่ละคน
สวมกางเกงชั้นใน กางเกงชั้นในของเขาเป็นสีขาว ส่วนของฉันเป็นสีน้ำเงินกรมท่า ตั้งแต่แม่
มาขัดจังหวะเซสชันโป๊ของเรา อวัยวะเพศของเราทั้งคู่ก็เลยมีเวลา
อ่อนลง ฉันใช้เวลาสักครู่เพื่อชื่นชมร่างกายเล็กๆ ของเขา ซึ่งฉันไม่เคยเห็น
เปิดเผยแบบนี้มาก่อน เขาค่อนข้างตัวเล็กเมื่อเทียบกับอายุของเขา ซึ่งทำให้ฉัน
คิดอีกครั้งว่าเขายังเด็กเกินไปสำหรับฉัน ในทางกลับกัน
ร่างกายเล็กๆ ของเขามีความเปราะบางและเปราะบาง ซึ่งฉันพบว่า
น่าดึงดูด และแม้ว่าฉันจะอยากปฏิเสธ แต่เขาก็เป็น
เด็กผู้ชาย ตัวเล็กที่เซ็กซี่จริงๆ

เขาสังเกตเห็นว่าฉันกำลังจ้องมองเขา และฉันก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย ฉันบอกว่า
เราควรเข้านอนแล้วไปปิดไฟ ถึงแม้ว่าฉันจะมีเวลา
เหลือบเห็นก้นเล็กๆ ที่น่ารักของเขาขณะที่เขาก้าวขึ้นเตียงก็ตาม

ฉันนอนใต้ผ้าห่มกับเขาและเรานอนเคียงข้างกันบน
หลังของเราโดยชิดกันแต่ไม่แตะต้องกัน เราคุยกันสักพัก หรือเขา
พูดและฉันก็ฟัง เขาคุยเรื่องต่างๆ ที่เขาทำกับเพื่อนๆ
เกมที่พวกเขาเล่น และอะไรก็ตาม มันไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ แต่ฉัน
รู้สึกว่าเขาชอบคุยกับเด็กโตที่ยินดี
ฟังเขา และในแง่หนึ่ง ฉันก็แค่สนุกกับการที่เขาอยาก
คุยกับฉัน ถ้าคุณเข้าใจฉันนะ

ในที่สุดเราก็กลับมาที่หัวข้อของไซมอน เพื่อนของเขา ซึ่งเขา
เคยพูดถึงตอนที่เรากำลังดูเว็บโป๊อยู่ ฉันถามเขาว่า
พวกเขาทำอะไรร่วมกันอีกนอกจากการดูหนังโป๊และโชว์
อวัยวะเพศ ให้กันดู

"เอาล่ะ เราไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย" เขากล่าว "ถึงแม้ว่าฉัน
อยากจะสัมผัสอวัยวะเพศของเขาจริงๆ ตอนที่เขาแสดงมันให้ฉันดู แต่ฉันก็ไม่ได้พูด
อะไร"

“ทำไมคุณไม่ทำล่ะ?”

“ฉันกลัวว่าเขาจะคิดว่าฉันแปลก”

"คุณรู้ไหมว่าเขาคงกำลังคิดเรื่องเดียวกัน"

“จริงเหรอ? คุณรู้ได้ยังไง?”

"การดูหนังโป๊จะทำให้ผู้ชายคนไหนก็ตามรู้สึกหื่น และเมื่อพวกเขารู้สึกหื่น พวกเขา
ก็มักจะอยากให้ใครสักคนสัมผัสอวัยวะเพศของพวกเขา"

“โอ้” เขาหยุดชะงักแล้วถามว่า “คุณรู้สึกหื่นหรือเปล่าตอนที่เรากำลังดู
หนังโป๊กันเมื่อกี้?”

“แน่นอน” ฉันตอบ “คุณไม่ได้เหรอ”

“ใช่ ฉันก็เหมือนกัน” ฉันหยุดชะงักอีกครั้ง “ฉันเริ่มหื่นอีกแล้ว”

"ฉันก็เหมือนกัน" ฉันพูด "นั่นหมายความว่าคุณอยากให้ฉันสัมผัสอวัยวะเพศของคุณใช่ไหม"

“ใช่ เฉพาะในกรณีที่คุณต้องการเท่านั้น”

นั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องการได้ยิน ฉันเอื้อมมือไปจับเป้าของเขาแล้ว
บีบแท่งแข็งๆ ของเขาผ่านกางเกงชั้นใน จากนั้นฉันก็สอดมือ
เข้าไปใต้แถบยางยืดแล้วใช้มือสอดไว้ระหว่างนิ้ว เขายก
สะโพกขึ้นและดึงกางเกงชั้นในลงมาจนถึงกลางต้นขาเพื่อให้ฉัน
เข้าถึง ได้สะดวกขึ้น

จนถึงตอนนี้ ประสบการณ์ทางเพศอื่นๆ ของฉันเกิดขึ้นกับ
เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งเท่านั้น เราเริ่มช่วยตัวเองด้วยกันเป็นครั้งคราวหลัง
เลิกเรียนเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เราทั้งคู่ยังอายุ 14 ปี บางครั้งเราก็ช่วยตัวเองกัน แต่
ส่วนใหญ่แล้วเราแต่ละคนจะสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง อวัยวะเพศชายของเขาเป็นอวัยวะเพศชายเพียงอันเดียวที่
ฉันเคยสัมผัส นอกเหนือไปจากของฉัน และมันมีขนาดประมาณเดียวกับของฉัน

อวัยวะเพศของทิมรู้สึกแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเพราะมันเล็กมาก การกำหมัดของฉัน
ไว้รอบอวัยวะเพศเพื่อสำเร็จความใคร่ไม่ได้ผลจริงๆ ดังนั้นฉันจึงต้องใช้ปลาย
นิ้วและนิ้วหัวแม่มือของฉัน ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งคือเพื่อนของฉันได้รับ
การขลิบอวัยวะเพศ ในขณะที่ทิม (เช่นเดียวกับฉัน) ไม่ได้ถูกขลิบอวัยวะเพศ

ฉันลูบไล้เจ้าโลกน้อยของทิมต่อไปประมาณหนึ่งนาที แต่เขาก็ไม่พูด
อะไร เขานอนนิ่งอยู่ตรงนั้น แม้ว่าฉันจะได้ยิน
เสียงหายใจของเขาหนักขึ้นเล็กน้อยก็ตาม

ฉันถามเขาว่าอยากสัมผัสฉันไหม เขาบอกว่าโอเค ฉันปล่อยอวัยวะเพศของเขา
และถอดกางเกงชั้นในออกหมด ฉันแนะนำให้เขาทำแบบเดียวกัน และเขา
ก็ทำ การรู้ว่าตอนนี้เราทั้งคู่เปลือยกายและแข็งทื่ออยู่ใต้ผ้าห่ม
ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น

ทิมขยับตัวไปด้านข้างและเอื้อมมือขวาไปจับอวัยวะเพศของฉัน อวัยวะเพศของฉัน
กระตุกเมื่อนิ้วเล็กๆ ของเขาจับมันได้

“ว้าว” เขาอุทาน “มันใหญ่มาก! รู้สึกเหมือนว่ามันใหญ่เกือบเท่ากับที่
เราเห็นในวิดีโอเหล่านั้นเลย”

ฉันหัวเราะเบาๆ “มันไม่ใกล้เคียงเลย มันดูใหญ่เกินไปสำหรับคุณเพราะฉัน
อายุมากกว่าคุณ”

เขาใช้มือและนิ้วหัวแม่มือลูบไล้เหมือนอย่างที่ฉันทำ
แต่ฉันเอามือทับมือเขาและแสดงให้เขาเห็นว่าต้องกำมืออย่างไร ฉัน
ปล่อยมือและเขายังคงลูบไล้ต่อไป ซึ่งรู้สึกดีมาก ฉันขอให้เขาจับ
แน่นขึ้นอีก และมันรู้สึกดีขึ้นไปอีก!

“คุณช่วยฉันพร้อมกันได้ไหม” เขาถาม ฉันเอื้อมมือไปช่วย
เขาสำเร็จความใคร่อีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดว่า “ฉันสงสัยว่ามันจะรู้สึกยังไง
ถ้าถูมันเข้าหากัน”

"อยากลองมั้ย?" ฉันถาม

"ใช่."

ฉันพลิกตัวไปด้านข้างเพื่อให้เราหันหน้าเข้าหากัน เราทั้งสองขยับเข้ามาใกล้กัน
จนอวัยวะเพศของเราสัมผัสกัน จากนั้นเราจึงขยับสะโพกและถู
กันโดยไม่ใช้มือ

“รู้สึกดี” เขากล่าว ฉันก็เห็นด้วย ฉันวางมือลงบนก้นของเขาและดัน
เขาเข้าหาฉันแรงขึ้น ในขณะเดียวกันก็บีบแก้มก้นของเขาไปด้วย เรา
ยังคงสอดประสานกันแบบนี้ต่อไปสักพัก อวัยวะเพศของฉันมี
น้ำหล่อลื่นไหลออกมาทั่วตัวเขา เมื่อเขาสังเกตเห็น เขาก็ถามว่าทำไมมันถึงเปียก

“มันก็แค่ของเหลวหล่อลื่น” ฉันพูด “มันเกิดขึ้นเมื่อผู้ชายอายุมากกว่ารู้สึกตื่นเต้น”

“มันเหมือนอสุจิไหม?” เขาถาม

“ไม่หรอก นี่มันคนละเรื่องกัน อสุจิจะออกมาก็ต่อเมื่อคุณถึงจุดสุดยอดเท่านั้น ถึงแม้ว่าเรา
จะถูไถกันแบบนี้ต่อไป มันก็อาจเกิดขึ้นในไม่ช้า ฉันใกล้จะถึง
จุดสุดยอดแล้ว”

“เจ๋งเลย มาต่อกันเถอะ ฉันอยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

“มันจะยุ่งวุ่นวายมาก คุณแน่ใจว่าคุณไม่รังเกียจใช่ไหม”

"ฉันไม่สนใจ"

ด้วยความยินยอมของเขา ฉันจึงเร่งความเร็วและเริ่มสอดใส่เขา
แรงขึ้น การเสียดสีทั้งหมดทำให้หนังหุ้มปลายของฉันดึงกลับ และตอนนี้
หัวที่ไวต่อความรู้สึกก็เผยออกมาและเลื่อนไถลไปตามเนื้อที่เปียกน้ำหล่อลื่นของเขา
ไม่นานฉันก็ถึงจุดสุดยอด

“นี่ไง” ฉันพูด

อวัยวะเพศของฉันระเบิดออก พุ่งน้ำเชื้ออุ่น ๆ ออกมาหลายจุดระหว่างเรา
ปกคลุมท้องของเราทั้งสองข้าง แม้ฉันจะเตือนแล้ว แต่แรงและปริมาณของมัน
กลับทำให้เขาประหลาดใจ "โอ้!"

"ฉันบอกแล้วว่ามันจะยุ่งวุ่นวาย" ฉันพูดหลังจากหายใจได้พัก

ฉันดึงผ้าห่มออกแล้วเปิดโคมไฟข้างเตียง เผยให้เห็น
ความเปลือยเปล่าของเรากับแสง จากนั้นหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดตัวเราทั้งคู่
เมื่อฉันเอื้อมมือไปปิดโคมไฟ เขาก็หยุดฉันไว้

“ไม่ล่ะ ปล่อยมันไว้แบบนั้น” เขากล่าว “ฉันอยากดูจู๋ของคุณอีกหน่อย”

เขาลุกขึ้นมามองใกล้ๆ แล้วใช้มือของเขาจับอวัยวะเพศของฉันที่กำลัง
ยุบลง ขยับมันไปมาและมองดูมันจากทุกทิศทาง มันตลกมากที่
เขาหลงใหลมันมาก

"What do you think of it," I asked.

"I like it. It's a nice dick." He made it sound like he was an expert,
though of course this was only the second one he'd seen up close, other
than his own.

"Well, I like yours, too," I said as I started masturbating him again.

"You do?"

"Yeah. I think it's cute. And I like playing with it."

"I like when you play with it," he said. "It feels better than when I do it
myself."

"I can keep doing it until you cum if you want."

"Okay!"

"Here, lie down again."

I continued stroking his hard little pole with my right hand while letting
my left hand caress him all over his body, from his chest and belly to his
thighs. With the lights on, I could observe his beautiful face while I
pleasured him. At first he kept his eyes open and looked at what my hand
was doing to him, then as he got into it more he closed his eyes and just
rested his head back. He looked very relaxed at first, but his expression
became more and more concentrated and he started biting his lip. Otherwise
he remained perfectly still and silent the whole time, until suddenly I
felt his whole body tense up. He breathed in sharply then let out a moan of
pleasure while his little penis spasmed in my hand, shooting blanks.

When he was done, his eyes opened and he smiled at me. Suddenly, he was
just a kid again.

"That was awesome," he said.

I turned the light off and we pulled the covers back over us and talked
some more until we both fell asleep.

III. THE MORNING AFTER

The next morning when I woke up, my cock was hard, as it is almost every
morning. When I opened my eyes, I saw that Tim was already awake. He jumped
out of bed, full of energy and ready to start the day, but he'd apparently
forgotten that we'd slept naked. When he realized it, he giggled and
started looking for his underwear. When he bent over to pick them up, he
gave me a perfect view of his perfect butt. My cock twitched beneath the
covers.

"Aren't you going to get up?" he asked.

"In a minute." Despite what everything that had happened the night before,
I was kind of embarrassed about my morning wood.

"Come on," he said. "You can't spend all day in bed." He pulled the covers
away and before I could make a grab for them my hard cock was exposed.

“เฮ้!” ฉันพูดพร้อมกับเอามือปิดตัวเองไว้ ขณะที่เขาหัวเราะเยาะฉัน จากนั้น
เขาก็มานั่งที่ขอบเตียงข้างๆ ฉัน โดยที่เขายังใส่ชุดชั้นในอยู่

“ให้ฉันดูหน่อย” เขากล่าว

“คุณเพิ่งทำไป และคุณได้เห็นมันมากมายเมื่อคืนนี้”

“ฉันอยากเห็นมันอีกครั้ง”

ฉันขยับมือออกไป เขาคว้าอวัยวะเพศของฉันและเริ่มลูบไล้ ฉันปล่อยให้
เขาทำต่อไปโดยเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกดีๆ

จู่ๆ แม่ก็เปิดประตูโดยไม่บอกกล่าว

“หนุ่มๆ ฉันจะทำแพนเค้กเป็นอาหารเช้า... โอ้!”

ทิมปล่อยอวัยวะเพศของฉันและกระโดดลุกขึ้นยืน ขณะที่ฉันคว้าผ้าห่ม
และพยายามปกปิดตัวเอง

“แม่!” ฉันตะโกน “แม่ไม่รู้จักเคาะประตูเหรอ?”

“ขอโทษนะ” เธอกล่าว “คุณอยากกินแพนเค้กหรือเปล่า?”

“ช่างเถอะ แค่ปิดประตูก็พอแล้ว”

“โอเค โอเค” เธอปิดประตูแล้วออกไป

ฉันถอนหายใจ ลุกจากเตียง แล้วเริ่มแต่งตัว

“คุณคิดว่าเธอเห็นอะไรไหม” ทิมถาม

“แน่นอนว่าเธอเห็น เธอคงทำมันโดยตั้งใจเช่นกัน”

“อะไรนะ! โอ้โห คุณคิดว่าเธอจะบอกพ่อแม่ฉันมั้ย?”

เขาดูเหมือนกำลังจะร้องไห้

ฉันพูดว่า "เฮ้ อย่ากังวลไปเลย เธอจะไม่บอกใครหรอก และ
คุณก็จะไม่เดือดร้อนด้วย เชื่อฉันเถอะ ฉันรู้จักเธอดี
ตอนนี้เธอคงกำลังหัวเราะกับเรื่องนี้อยู่"

“จริงเหรอ” เขาฟังดูโล่งใจ “แม่ของคุณแปลก ๆ นะ”

“เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ! แต่เธอก็เจ๋งมากด้วย ไม่ค่อยมีแม่คนไหนยอม
ให้พวกเราทำแบบเมื่อคืนแล้วไม่สนใจหรอก”

“คุณหมายถึงอะไร คุณคิดว่าเธอก็รู้เรื่องนั้นเหมือนกันเหรอ?”

“ไม่หรอก ฉันหมายถึงไม่จริงๆ แต่ฉันคิดว่าเธอคงให้เรานอน
เตียงเดียวกัน เพราะรู้ว่าเรื่องแบบนั้นอาจเกิดขึ้นได้”

“ทำไมเธอถึงทำแบบนั้น” ความตื่นตระหนกหายไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาดู
สับสน อย่างแท้จริง

“ฉันไม่รู้” ฉันเศร้า “ฉันเดาว่าเธอคงเปิดใจเกี่ยวกับ
เรื่องแบบนั้นมากกว่าคนส่วนใหญ่ และเพราะเธอรู้ว่าฉันชอบผู้ชาย และเพราะ
เธอคิดว่าคุณน่ารัก”

“เธอทำเหรอ? เดี๋ยวนะ คุณหมายความว่าคุณชอบผู้ชายเหรอ? คุณเป็นเกย์หรือ
อะไรประมาณนั้นเหรอ?”

“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ฉันชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ฉันเดานะ แต่ฉันคิดว่าฉัน
ชอบผู้ชายมากกว่า”

"คุณคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นเกย์ไหม?"

“ฉันไม่รู้” จู่ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าฉันอาจจะพูดมากเกินไป
และฉันกำลังจะเริ่มไล่เขาออกไป “คุณจะรำคาญไหมถ้าเป็นอย่างนั้น”

"ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก ฉันเดานะ"

“คุณไม่ควรต้องกังวลเรื่องนั้น เราแค่สนุกกันเท่านั้น ไม่มี
ใครรู้หรอก และเราจะไม่ทำแบบนั้นอีกหากคุณไม่สบายใจ”

“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น ฉันแค่... ฉันไม่รู้”

“ขอโทษที ฉันไม่น่าบอกคุณไปทั้งหมดเลย ไปกิน
ข้าวเช้ากันเถอะ แล้วคุยกันต่อทีหลังก็ได้ ถ้าคุณอยากคุยด้วย”

เราแต่งตัวเสร็จก่อนออกจากห้อง ทิมใส่กางเกงขาสั้นและ
เสื้อยืด ฉันใส่กางเกงยีนส์และเสื้อยืด

ฉันรู้สึกขอบคุณที่แม่ทำตัวดีระหว่างมื้อเช้าและทำเหมือน
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันกลัวว่าแม่จะเริ่มล้อเลียนเราเกี่ยวกับสิ่งที่
เห็น ซึ่งฉันคิดว่าคงทำให้ทิมตกใจมาก แต่แม่ก็มี
เหตุผลพอที่จะยับยั้งตัวเองไว้ได้

ทิมดูอึดอัดอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็ดูเหมือนจะลืม
เรื่องนั้นไปหมดแล้วและกลับมามีอารมณ์ดีอีกครั้ง เราตัดสินใจไม่ใช้เวลาทั้งวัน
อยู่แต่ในบ้านเล่นเกมวิดีโอ เราเล่นบาสเก็ตบอลกันและ
ขี่จักรยานกันต่อ ฉันสนุกกับการใช้เวลากับเขามาก ก่อนสุด
สัปดาห์นี้ ฉันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่ออยู่ใกล้เขา ราวกับว่าการที่
อายุมากกว่าเขาสี่ปีทำให้เราไม่สามารถเข้าใจกันได้เลย
แต่ไม่รู้ทำไมความอึดอัดทั้งหมดก็หายไปหลังจาก
คืนที่เราได้อยู่ด้วยกัน การออกไปเที่ยวกับเขาเป็นเรื่องง่ายและสนุก ฉันไม่ต้อง
รู้สึกเขินอายหรือพยายามทำให้เขาประทับใจอีกต่อไป มันเหมือนกับ
การมีน้องชายหรือปล่อยให้ตัวเองเป็นเด็กอีกครั้ง และใน
ขณะเดียวกัน ฉันคิดว่าฉันกำลังเริ่มมีความรู้สึกบางอย่างกับเขา เขา
ไม่ใช่แค่เด็กน่ารักจากอีกฝั่งถนน เขาเป็นคนอ่อนหวาน ฉลาด
และตลก และทุกครั้งที่เขายิ้มให้ฉัน หัวใจของฉันก็ละลายไปเล็กน้อย

การปั่นจักรยานพาเราไปที่สวนสาธารณะที่มีพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ เราเดินตาม
เส้นทางเข้าไปในป่าและพบพื้นที่โล่งซึ่งเราตัดสินใจพักสัก
ครู่ เราทั้งคู่นั่งลงบนพื้นหญ้าและดูเหมือนว่าไม่มีใครจะ
พูดอะไรสักคำในชั่วขณะหนึ่ง ในที่สุด ฉันก็ถามเขาว่าอยากคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนและเช้านี้หรือ ไม่

"ไม่จริงหรอก" เขากล่าวพร้อมยักไหล่

"ถ้าคุณต้องการ คืนนี้ฉันก็นอนโซฟาได้ ส่วนคุณนอนเตียงของฉัน
คนเดียวก็ได้"

"ทำไม?"

"ฉันแค่ไม่อยากทำให้คุณไม่สบายใจเท่านั้นเอง"

“ฉันไม่ได้รู้สึกอึดอัด ฉันหวังว่าเราจะได้เล่นกับจู๋ของเราอีกครั้ง ฉัน
หมายถึง ถ้าเธอต้องการเท่านั้น”

“แน่นอนว่าฉันอยากทำแบบนั้น ฉันแค่ไม่คิดว่าคุณจะทำ เพราะสิ่งที่ฉันพูด
เกี่ยวกับการชอบผู้ชาย หรือเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับแม่ของฉัน”

“ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้ว”

“ดี ฉันดีใจที่คุณรู้สึกแบบนี้”

เขาส่งยิ้มให้ฉัน แล้วพวกเราก็เงียบไปอีกครั้งชั่วขณะ แม้ว่าฉัน
จะแกล้งทำเป็นเฉย แต่จริงๆ แล้วฉันก็ดีใจมากที่ไม่ได้
ทำให้โอกาสที่เราจะได้เล่นสนุกกันอีกครั้งเสียไป ฉันไม่เชื่อเลยว่าฉันจะ
ตกหลุมรักเขาอย่างกะทันหันขนาดนี้ เขาช่างน่ารักเหลือเกิน ฉันแค่อยากกอด
และจูบเขา เท่านั้น

“จริงไหมที่แม่คุณบอกว่าฉันน่ารัก” เขาถาม

“ใช่แล้ว เธอพูดแบบนั้นตลอดเวลาจริงๆ”

"แล้วคุณคิดว่าเธอรู้ว่าเราจะทะเลาะกันถ้าเรานอน
เตียงเดียวกันเหรอ?"

ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะบอกเขาดีไหม ฉันไม่อยากให้เขาคิดว่า
แม่ของฉันเป็นพวกโรคจิต (ถึงจะพูดตามตรง ฉันก็คิดว่าแม่ของฉันเป็นโรคจิตเหมือนกัน) แต่
เพราะฉันแคร์เขามาก ฉันจึงอยากบอกความจริงกับเขา ฉันจึง
ตัดสินใจบอกความจริงกับเขา

“แม่ของฉันรู้ว่าฉันชอบผู้ชาย ดังนั้นเธอจึงทำตัวเป็นแม่สื่อ
ในช่วงนี้ เมื่อแม่สังเกตเห็นว่าคุณเป็นผู้ชายที่น่าดึงดูด เธอก็เลยคิด
ที่จะจับคู่ให้เรา และเธอก็รู้ว่าฉันจะต้องชอบคุณ
เหมือนกัน และพูดตามตรง ฉันคิดว่ามันทำให้แม่รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเมื่อคิดว่าเรา
ทำอะไรแบบนั้นด้วยกัน”

เขาไม่ได้พูดอะไร ฉันเห็นเขารับทุกอย่างและประมวลผลมัน

"คุณตกใจไหม" ฉันถาม

“ผมไม่รู้” เขากล่าว “ผมคิดว่ามันร้อนนิดหน่อย”

ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะพูดแบบนั้น

"คุณทำเหรอ?"

"เล็กน้อย."

เราทั้งสองก็หัวเราะ

“เธอคิดว่าเธอสัมผัสตัวเองในขณะที่คิดถึงเราบ้างไหม” เขา
ถาม

“อี๋! ฉันไม่รู้ ฉันไม่อยากรู้” แม้ว่าฉันจะไม่ได้รังเกียจอย่าง
ที่ฉันแกล้งทำก็ตาม

“แต่เธอก็เซ็กซี่เหมือนกันนะ” ทิมกล่าว

"ฉันเดานะ แต่ไม่ร้อนเท่าคุณหรอก"

เขาส่งรอยยิ้มอันแสนละลายใจมาให้ฉันอีกครั้ง

IV. ปาร์ตี้พิซซ่า

เมื่อกลับถึงบ้าน แม่บอกว่าเธอสั่งพิซซ่ามาทานเป็นมื้อเย็น เธอดูสวย
ขึ้นเล็กน้อย เธอรวบผม
แต่งหน้าบางๆ และสวมเสื้อเบลาส์ที่เผยให้เห็นเนินอก เธอ
ไม่ได้ดูเซ็กซี่แต่ก็ดูสวยมาก ฉันถามว่าเธอจะออกไปข้างนอกหรือ
เปล่า

“ไม่ ทำไม?”

"แค่สงสัย"

Tim kept staring at her boobs. I'm sure Mom noticed, too. In fact, I
realized she had probably made herself look pretty specifically for
him. While we waited for the pizza to get delivered, she kept finding
excuses to put her hands on Tim, squeezing his arm, patting his back,
messing up his hair. I'd never really seen them interact like this
before. Tim was obviously enjoying the attention. Now that he knew my
mother thought he was sexy, he was aware of the effect he was having on
her. I could tell by the way he handle himself, acting all coy, that he was
playing it up for her. And her lust for him was getting him excited.

It was all very transparent, and kind of fascinating to observe. I
should've been jealous, and yet I wasn't. I did feel on some level that I
wanted Tim to be "mine." But what was going on before my eyes felt more
like a game than some kind of threat to that. Maybe it was because both of
them were kind of winking at me while this was going on. They were both
subtly letting me know what they were doing, without realizing that the
other was doing the same thing. Instead of getting upset at either of them,
I found myself getting turned on.

By the time the pizza was delivered, there was a palpable sexual tension in
the air. Tim sat close to me on one side of the dinner table, with my
mother on the other side. Whenever I could spare the use of my left hand, I
would let it rest on Tim's thigh, then once in a while I would creep up
toward his crotch and press gently on his stiff little cock. Mom couldn't
see what I was doing, though the fact that I had my hand underneath the
table for almost the entire meal must have given her a pretty good clue.

When we were finished eating, my mother got up to clear the plates and as
soon as she had her back turned to us, Tim pulled his shorts down and
placed my hand right on his exposed dick. I was shocked that Tim would go
that far with my mother still in the kitchen with us, but I reacted quickly
and stroked his dick really fast for about five seconds, and then he pushed
my hand away and pulled his shorts back up. He looked at me and snickered
silently. My heart was racing.

"Thanks for the pizza, Mom," I said. Then to Tim, "Wanna go hang out in my
room for a while?"

"Okay."

As soon as I had closed the door, Tim burst out laughing and threw himself
on the bed.

"Oh, my God, that was so cool. You should've seen your face."

"I can't believe you did that," I said. "You're really horny."

"Well, you're the one who kept playing with my dick all through dinner."

He pulled down his shorts again and started jerking off. I was about to go
lend a hand when he said:

"Maybe we should let your mom catch us again."

"Well, first of all, we didn't really 'let' her catch us. She just kinda
barged in on us. And second, are you out of your mind? You looked pretty
freaked out when she caught us this morning."

"That's because I thought I was gonna get in trouble. Now that I know she
doesn't mind, it's kind of exciting." He continued stroking himself while
we talked. I was still hovering by the door, unsure where this was going.

"What do you want me to do, leave the door open?" I asked. I was only half
joking.

"Maybe just a crack," he said.

I don't know what possessed me to go along with his plan, but I did. I left
the door ajar and walked over to the bed. He had his shorts down just below
the hips and was still tugging away at his dick. I wanted full access to
his hot little body, so I grabbed his shorts and underwear and yanked them
both off. Then I pulled his t-shirt off over his head. I loved how he was
letting me undress him without saying anything. I wondered what else he
would let me do to him as I took a moment to admire his naked body.

"Are you gonna get naked too?" he asked.

"In a minute," I said.

I was very much aware of the crack I'd left in the door. I knew that if my
mother happened to walk by (and I was sure that she would sooner or later)
she'd be able to see inside the room. This morning she'd caught a glimpse
of him jerking me off. But now this was his exhibitionist fantasy and I
thought if he wants to get caught, he might as well be the one who's
exposed. Getting him completely naked made him vulnerable and keeping my
clothes on gave me a sense of power and control. He was at my mercy now,
and if my mother should walk in at any moment, he wouldn't be able to hide
from her either.

I started stroking his dick and sense him giving himself over to me
completely. His pleasure, like his nakedness, was something he had no
control over. Last night he'd remained very still, with a concentrated look
on his face while I jerked him off. But now it was different. He'd let his
guards down and his body was reacting in ways that he wasn't even aware
of. I could feel it quivering and trembling and squirming beneath my hands.

"Do you want to try something new?" I asked.

"What?"

"You'll see. Just lie down and let me do the work."

I glanced back at the door and saw my mother peeping at us but didn't tell
Tim. I turned back toward him, leaned in, and took the tip of his little
cock in side my mouth, tasting boy cock for the first time. He gasped when
he felt my wet lips around it and lifted his hips slightly, pushing the
full length of his pole inside my mouth. Applying as much pressure as I
could with my lips and tongue, I started bobbing my head up and down.

"This feels amazing," he said.

I continued pleasuring him with my mouth for at least a full minute,
conscious of my mother's gaze on us the whole time. I couldn't believe that
I was sucking a boy's cock in front of my mother. There was a little voice
inside my head telling me that this was wrong. But then another, louder
voice told it to shut the fuck up. This was hot!

I let Tim's cock slide out of my mouth, trying to catch my breath. Tim
looked up at me, and then the look in his eyes told me that he'd seen my
mother behind me. He sat up quickly and covered his crotch with both
hands. I turned around and saw Mom walk inside the room.

"You boys look so cute together," she said. "I knew you'd make a great
couple."

"We're not a couple, Mom," I said. "We're just having a little bit of fun."

"Yes, I can see that."

She sat down on the bed next to Tim, who had turned beet red and was still
trying to cover himself up. Even though this had been his idea, it was hard
to tell what was going through his mind at this point. My best guess is he
was just waiting to see what would happen next, his heart racing with
nervous anticipation.

"Tim, you have such a beautiful body," Mom said. "Why are you trying to
cover it up? You don't have to be shy around me."

ทิมถอนมือออกจากเป้าอย่างลังเล อวัยวะเพศของเขา
ยังคงแข็งอยู่ ชี้ขึ้นและเต้นเป็นจังหวะเล็กน้อย ฉันได้ยินเสียงแม่
หายใจออกเมื่อเธอเห็นมัน

“ฉันขอสัมผัสมันได้ไหม” เธอกล่าวถาม

ทิมพยักหน้าช้าๆ เป็นการอนุญาต ฉันสังเกตเห็นว่ามือของเธอสั่น
ขณะที่เธอเอื้อมมือไปจับอวัยวะเพศของเขา เธอไม่ได้ลูบมันมากนัก แต่ลูบมันเบาๆ
ราวกับว่าเธอกำลังลูบสิ่งมีชีวิตในตำนานที่เธอแทบไม่เชื่อ
ว่ามีอยู่จริง เธอดูตื่นเต้นมาก สัมผัสอันอ่อนโยนของเธอทำให้
อวัยวะเพศของทิมกระตุกมากจนฉันคิดว่าเธอทำให้เขาถึงจุดสุดยอดได้เพียงแค่
ใช้ปลายนิ้วลูบเบาๆ เวลาเหมือนจะหยุดนิ่ง ฉัน
ถูกสะกดจิต

จากนั้นแม่ของฉันก็ลุกขึ้นและเดินไปที่
ประตูโดยไม่พูดอะไร ดูเหมือนว่าเธอจะใช้เวลานานมากในการไปถึงประตู เธอหยุดพักและ
หายใจเข้าลึกๆ เมื่อหันกลับมา เธอก็เริ่มตั้งสติได้อีกครั้ง

“ฉันไม่อยากบังคับให้พวกเธอทำอะไรที่พวกเธอไม่อยากทำ” เธอ
กล่าว “แต่ถ้าพวกเธอต้องการ ฉันคิดว่า
คืนนี้พวกเราอาจจะนอนด้วยกันบนเตียงของฉันได้นะ ตอนนี้พวกเธอไม่ต้องพูดอะไรแล้ว แต่ฉันจะรออยู่ตรงนั้น
ถ้าพวกเธอตัดสินใจจะมาหาฉันทีหลัง”

แล้วเธอก็ทิ้งเราไป

5. เตียงแม่

ฉันรู้สึกว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป ราวกับว่าโลกทั้งใบของฉัน
เปลี่ยนไป และฉันไม่สามารถตามทันมันได้ ผู้หญิงที่
เชิญเราไปที่เตียงของเธอคือใคร แม่ผู้ประหลาด แม่ผู้เป็นวิญญาณอิสระ ฉัน
รู้จักและรักเธอมาตลอดชีวิต แต่ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบ
นี้ เธอยังคงเป็นแม่ของฉัน แต่เธอได้กลายเป็นคนแปลกหน้า ลึกลับ แปลก
ใหม่ และเย้ายวน หัวของฉันหมุนไปหมด

ฉันนอนลงบนเตียงด้วยความรู้สึกตื้นตันและรอให้ความสับสนวุ่นวายในหัวสงบ
ลง ทิมขยับเข้ามาใกล้ฉันบนเตียง ฉันโอบแขนรอบตัวเขา
และกอดเขาไว้แน่น เขายังเปลือยกายอยู่ ส่วนฉันยังคงสวมกางเกงยีนส์
และเสื้อยืด ฉันจูบศีรษะเขาและสูดกลิ่น
ผมของเขา มันช่างน่าหลงใหล ฉันจึงตระหนักในตอนนั้นว่าฉันไม่ได้แค่หลงใหล
เขา ฉันไม่ได้แค่แอบชอบเขา หรือคิดว่าเขาน่ารัก หรือชอบ
เล่นกับเขาเท่านั้น ฉันตกหลุมรักเขา ฉันวางมือบนคางของเขา
และค่อยๆ เลื่อนใบหน้าของเขาขึ้นมาหาฉัน เราสบตากัน
และโลกของฉันก็เริ่มมีความหมายอีกครั้ง อารมณ์
ความปรารถนา และความกลัวที่ขัดแย้งกันทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแม่ของฉันเข้าที่เข้าทาง สิ่งเดียวที่สำคัญ
คือเขาและความหลงใหลที่ดำรงอยู่ระหว่างเรา เขาคือที่ยึดเหนี่ยวของฉัน เป็น
ศูนย์กลางของโลกของฉัน ฉันจูบเขาที่ริมฝีปาก เป็นจูบที่ยาวนาน เปียกชุ่ม และเร่าร้อน
ลิ้นของเราประสานกัน

“คุณอยากทำอะไร” ฉันถามหลังจากที่ริมฝีปากของเราแยกออกจากกัน

"คุณตัดสินใจเอง" เขากล่าว

ฉันปล่อยให้มือซ้ายของฉันเลื่อนไปตามร่างกายของเขาจนกระทั่งมันพักอยู่ระหว่าง
ขาทั้งสองข้างของเขา อวัยวะเพศของเขายังคงแข็งอยู่ ฉันบีบและดึงมันเบาๆ

“ฉันคิดว่าเราควรไป” ฉันพูด “แต่ก็ต่อเมื่อคุณอยากไปเท่านั้น”

"คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?"

“ฉันไม่รู้ ฉันไม่คิดว่าเธอจะรู้ด้วยซ้ำ ฉันเดาว่านั่นคงเป็นส่วนหนึ่งที่
น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับเรื่องนี้”

ฉันยังคงเคลื่อนไหวมือไปที่อวัยวะเพศของเขาอย่างช้าๆ

“โอเค” เขากล่าว “มาทำกันเลย”

ฉันจูบปากเขาอีกครั้งอย่างรวดเร็วแล้วเริ่มจะลุกขึ้น

“แต่ก่อนอื่น” เขากล่าว “คุณต้องเปลือยกายก่อน ฉันไม่อยากไปที่
นั่นแล้วต้องเปลือยกายคนเดียว”

ดูยุติธรรมดี ฉันยืนอยู่หน้าเตียงแล้วถอดเสื้อยืดออก เขา
ลุกขึ้นนั่งและเริ่มปลดกางเกงยีนส์ของฉัน ฉันปล่อยให้เขารูดซิปและดึงกางเกงยีนส์
ลงมาจนถึงเข่า จากนั้นฉันก็ถอดกางเกงยีนส์ออก จากนั้นเขาก็ดึงกางเกงชั้นในของฉัน
ลงและอวัยวะเพศที่แข็งของฉันก็เด้งขึ้น มันแทบจะอยู่ตรงหน้าเขา เขา
คว้ามันไว้แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันแล้วก็ยิ้ม

"จูบมันสิ" ฉันพูด

เขาเริ่มจูบเบาๆ ลงไปตามความยาวของอวัยวะเพศข้างหนึ่ง จากนั้น
จูบด้านล่าง และจูบอีกด้านหนึ่ง จนกระทั่งถึงปลายอวัยวะ
เพศ เขาใช้มือบีบและน้ำหล่อลื่นหยดหนึ่งก็ไหลออกมา

“ลองชิมดู” ฉันกล่าว


เขาชักหนังหุ้มปลายของฉันกลับ จากนั้นก็แลบลิ้นออกมาและเลีย ของเหลวที่ไหลออกมาจากหัวอวัยวะเพศเล็กน้อย

“คุณชอบมันไหม” ฉันถาม

“ผมไม่รู้” เขากล่าว “มันเค็มนิดหน่อยแต่ก็ไม่แย่” เขา
เลียมันอีกครั้งแล้วเอาริมฝีปากของเขามาแตะรอบหัวอย่างลังเล ฉัน
อดไม่ได้ ฉันดันเข้าไปในปากของเขา เขาถอยกลับเล็กน้อยแต่ไม่
สุด ฉันวางมือของฉันไว้ที่ด้านหลังศีรษะของเขาและกระตุ้นให้
เขาอมอวัยวะเพศของฉันเข้าไปในปากของเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาสอดอวัยวะเพศของฉันเข้าไปได้มากกว่า
ครึ่งหนึ่งของความยาวห้านิ้วก่อนที่จะเริ่มถอยกลับ

"เราควรหยุดดีกว่า ไม่งั้นฉันจะเสร็จ" ฉันพูด

เขาจึงลุกขึ้น ฉันจึงจับมือเขาและพาเขาไปที่ห้องนอนของแม่ แม่ทิ้ง
ประตูเปิดไว้ และเราพบเธอนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง
มือทั้งสองข้างของเธออยู่ระหว่างขาทั้งสองข้าง กำลังสำเร็จความใคร่

“โอ้โห!” ฉันได้ยินทิมพูด แม่ก็ได้ยินเช่นกัน และเธอก็ลืมตาและ
ยิ้มเมื่อเธอเห็นทิมยืนอยู่ที่ประตูบ้าน ทั้งคู่เปลือยกาย และอวัยวะเพศที่แข็งของเรา
ชี้มาทางเธอ

“โอ้พระเจ้า” เธอกล่าว “ฉันดีใจมากที่พวกคุณตัดสินใจมา ฉันแทบจะ
คลั่งเพราะรอพวกคุณอยู่ที่นี่ มาที่นี่สิ”

ฉันวางมือบนไหล่ของทิมและเร่งเร้าให้เขาก้าวไปข้างหน้า เราทั้งคู่ขึ้นไปบน
เตียง ทิมอยู่ตรงกลาง แม่และฉันอยู่คนละฝั่งของเขา เขา
หันกลับไปทางด้านข้าง หันหน้าเข้าหาเธอ ส่วนฉันขยับเข้าไปใกล้ด้านหลังเขา กด
อวัยวะเพศที่แข็งของฉันไว้ที่ก้นของเขา ทิมเอื้อมมือไปหาแม่ของฉันอย่างลังเล
แม่จึงจับมือเขาแล้ววางไว้ที่หน้าอกของเธอ จากนั้นเธอก็เริ่ม
ลูบไล้ร่างกายของเขา สัมผัสผิวที่เนียนและนุ่มนวลของเขา ปล่อยให้มือของเธอ
สำรวจทุกตารางนิ้วของเขา ฉันทำตามเธอและเริ่มทำแบบเดียวกัน
กับเขา จากนั้นฉันก็จูบเขาที่คอและไหล่ ในขณะที่แม่จูบเขาที่
หน้าอก ค่อยๆ เลื่อนลงมาที่ท้องของเขา เขากำลังดิ้นและ
ตอบสนองต่อการกระตุ้นที่ล้นหลามในขณะที่เราทั้งคู่เคารพบูชา
ร่างกายที่ยังเยาว์วัยของเขา เขาหันศีรษะไปรอบๆ จับศีรษะของฉันแล้วดึงเข้าหา
ใบหน้าของเขา เราจูบกันอย่างเร่าร้อน

ตอนนี้จูบของแม่มาถึงเป้าของเขาแล้ว และเขาหันหลังให้
เธอเข้าถึงอวัยวะเพศของเขา เขาและฉันหยุดจูบกัน และเราทั้งคู่มองลงไปเห็น
เธอเอาริมฝีปากของเธอไปปิดอวัยวะเพศของเขา เธอครางออกมาขณะที่เธอเริ่มดูด
เขา เธอดูเหมือนเธอกำลังพยายามกลืนเขาทั้งตัว เหมือนกับว่าเธอหิว
อวัยวะเพศชายมาตลอดชีวิตและไม่สามารถกินมันได้เพียงพอ
อวัยวะเพศของฉันเองซึ่งกดทับก้นของทิมได้หลุดออกมาเมื่อเขา
ขยับไปด้านหลัง มันอยู่ห่างจากใบหน้าของแม่เพียงไม่กี่นิ้ว แม้ว่า
เธอจะดูเหมือนไม่รู้ตัวก็ตาม

ขณะที่ฉันเฝ้าดูแม่กำลังให้ความสุขกับเด็กชายที่ฉันรัก ฉันก็ตระหนักได้ว่า
ข้อห้ามเรื่องการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องนั้นไม่ได้ถูกละเมิด เราต่างมีเซ็กส์กับเด็กชายคนนี้ แต่เราทั้งคู่
มุ่งความสนใจไปที่เขาและระมัดระวังที่จะไม่แตะต้องกัน
การที่อวัยวะเพศของฉันซึ่งแข็งและเปิดออกอยู่ใกล้ชิดกับใบหน้าของเธอช่างน่าตื่นเต้น มัน
ทำให้ฉันนึกถึงสมัยที่ฉันยังเด็กและอยู่บนเตียงกับเธอ โดยรู้ตัวว่า
ฉันกำลังแข็งตัวเล็กน้อยและกลัวว่าเธอจะแตะต้องมันโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉัน
ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว

แล้วแม่ก็หยุดดูดอวัยวะเพศของทิมแล้วมองมาที่เรา

"ฉันอยากให้คุณเย็ดฉัน ทิม" เธอกล่าว

เธอขยับตัวไปนอนหงายแล้วให้ทิมปีนขึ้นไปบนตัวเธอ เธอแบะ
ริมฝีปากช่องคลอดของเธอด้วยมือข้างหนึ่งและจับอวัยวะเพศเล็กๆ ของทิมไว้ในอีกข้างหนึ่งแล้วถู
ปลายของมันไปที่คลิตอริสของเธอ จากนั้นเธอก็นำเขาเข้าไปในตัวเธอ ครางออกมา
ขณะที่เขาสอดใส่เข้าไปในตัวเธอ เธอวางมือทั้งสองข้างบนแก้มก้นของเขาและกอดเขา
ไว้แน่นโดยขยับอุ้งเชิงกรานของเธอและบดช่องคลอดของเธอเข้ากับ
ตัวเขา จากนั้นเขาก็เริ่มขยี้เธอ

“พอแล้ว ทิม” เธอกล่าวพร้อมกับครวญครางด้วยความสุข “เย็ดฉัน เย็ดฉัน
แรงๆ สิ”

ทิมเริ่มมีอารมณ์ร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ เขา
เริ่มมีเซ็กส์กับเธอเร็วขึ้นและหนักขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายที่สวยงามของสาวน้อยของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ และ
ใบหน้าของเขามีท่าทีจดจ่ออย่างเข้มข้น เสียงครางและอ้อนวอนของแม่
ดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่ากำลังดูหนังโป๊สดๆ ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ฉัน ขณะที่ฉันลูบไล้ตัวเองช้าๆ พยายามไม่ให้ถึงจุดสุดยอด
แต่แม่ของเธอกลับถึงจุดสุดยอดเสีย แล้ว

“โอ้พระเจ้า” เธอร้องออกมา “ฉันกำลังจะถึงจุดสุดยอดแล้ว!” ฉันเฝ้าดูการถึงจุดสุดยอดอย่างรุนแรง
ทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั้งตัวราวกับว่าเป็นนาทีเดียว ในที่สุด เธอก็เอา
มือโอบรอบทิมและกอดเขาไว้แน่นๆ เพื่อหยุดการเสียดสีของเขา
ในขณะที่เธอกำลังฟื้นตัว

ฉันบอกได้ว่าทิมยังไม่เสร็จ ดังนั้นเมื่อเขาหลุดออกจากตัวเธอ ฉัน
จึงจัดท่าให้เขาขึ้นมาบนตัวฉันและเย็ดหน้าฉัน ฉันได้
ลิ้มรสน้ำหล่อลื่นของแม่บนอวัยวะเพศของเขาขณะที่มันไหลเข้าไปในปากของฉัน ซึ่ง
ทำให้ฉันหิวกระหายมันมากขึ้น เขาเริ่มต่อจากจุดที่เขาหยุดไว้
และเริ่มเย็ดหน้าฉันในแบบเดียวกับที่เขาเย็ดช่องคลอดของแม่ฉัน
เมื่อนาทีที่แล้ว เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้และพุ่งไปสู่จุดสุดยอดของตัวเอง

ฉันกำลังพยายามใช้แรงกดที่
อวัยวะเพศของเขาให้พอเหมาะพอดีเพื่อให้เขารู้สึกดี แต่แล้วฉันก็รู้สึกว่ามือของแม่กำลังบีบ
อวัยวะเพศของฉันอยู่ ตอนนั้นแม่จับอวัยวะเพศของฉันตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนตอนที่
แม่ดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศของฉันกลับเข้าไปในอ่างอาบน้ำ แม่ก็ทำแบบเดียวกันกับมันตอนนี้
จากนั้นเธอก็อมมันและเริ่มดูดมัน ฉัน
ตื่นเต้นมาก ฉันรู้ว่าตัวเองคงทนได้ไม่เกินสองสามวินาที

ฉันได้ยินทิมคราง เขาดันหน้าฉันแรงๆ แล้วฉันก็รู้สึกว่า
อวัยวะเพศของเขาเริ่มกระตุกในปากของฉัน จากนั้น
ฉันก็ถึงจุดสุดยอดอย่างแรงที่สุดในชีวิต และอวัยวะเพศของฉันก็ระเบิดออกมาในปากของแม่ พุ่ง
น้ำอสุจิร้อนๆ ลงคอของเธอ เธอกลืนมันลงไปจนหมดและยังคง
ดูดอวัยวะเพศของฉันต่อไป รีดน้ำอสุจิออกมาจนหยดสุดท้ายจนหัวอวัยวะเพศของฉัน ไวต่อ
ความรู้สึกมากจนฉันต้องผลักเธอออกไป

ทิมหลุดออกจากปากฉันและล้มทับฉัน ชั่วขณะหนึ่ง
เราทั้งสามคนยังคงนิ่งอยู่ กองรวมกันเป็นก้อนบนเตียง
หายใจไม่ทัน ไม่มีใครพูดอะไร เมื่อเราพร้อมที่จะเคลื่อนไหวอีกครั้ง พวกเราทุกคน
ก็มุดเข้าไปใต้ผ้าห่มและผล็อยหลับไปโดยแนบชิดกัน

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อฉันตื่นขึ้น แม่ลุกจากเตียงไปแล้ว ฉันได้ยิน
เสียงน้ำฝักบัวไหล ฉันมองไปที่เด็กชายน่ารักที่ยังนอนหลับ
อยู่ข้างๆ ฉัน มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายในช่วงสุดสัปดาห์เดียว ฉันแทบ
จำไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร แต่ฉันรู้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป
ตลอดกาล

ทิมลืมตาขึ้นและมองมาที่ฉันแล้วยิ้ม

"สวัสดีตอนเช้า" เขากล่าว

ใช่ครับ ดีเลยครับ.