
"เฟตตูชินีโขดหิน!" อาจฟังดูเป็นสโลแกนโฆษณาของเครือร้านอาหารอิตาเลียน แต่จริงๆแล้วคำว่าหินเฟตตูชินไม่ได้หมายถึงอาหารจานพาสต้าแสนอร่อย แต่เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้สิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารได้อย่างชัดเจนหากมีอยู่ที่นั่น
หินที่เป็นปัญหานั้นพบได้บนโลกในสถานที่ต่างๆเช่นน้ำพุร้อนแมมมอ ธ ในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน พวกเขากำลังสีเหลืองและมีการก่อผลึกที่มีลักษณะคล้ายชั้นของพาสต้าเป็นนักวิจัยรายงานในบทความที่ตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ในวารสารทางวิทยาศาสตร์ชีววิทยาและอธิบายในมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์นี้แถลงข่าว
สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับหินคือการก่อตัวของพวกมันถูกควบคุมโดยแบคทีเรียSulfurihydrogenibium yellowstonenseซึ่งวิวัฒนาการมาเมื่อ 2.35 พันล้านปีก่อนซึ่งเป็นช่วงก่อนการให้ออกซิเจนในชั้นบรรยากาศของโลก จุลินทรีย์ซัลเฟอร์ตามที่นักวิทยาศาสตร์เรียกสั้น ๆ ว่าสามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่มีระดับออกซิเจนต่ำมากโดยใช้กำมะถันและคาร์บอนไดออกไซด์ (ซึ่งมีออกซิเจน) เป็นแหล่งพลังงาน จุลินทรีย์ยังสามารถทนต่อแสงอัลตราไวโอเลตและความร้อนสูงได้อีกด้วย
"เมื่อรวมกันแล้วลักษณะเหล่านี้ทำให้เป็นตัวเลือกหลักในการตั้งรกรากดาวอังคารและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ " Bruce Foukeศาสตราจารย์ด้านธรณีวิทยาและจุลชีววิทยาของ Carl R. Woese Institute for Genomic Biology แห่ง University of Illinois Urbana-Champaign อธิบายใน ข่าวประชาสัมพันธ์.
“ ถ้าเราเห็นการทับถมของหินใยชนิดนี้บนดาวเคราะห์ดวงอื่นเราจะรู้ว่ามันเป็นลายนิ้วมือของชีวิต” Fouke กล่าว “ มันใหญ่และไม่เหมือนใคร ไม่มีหินอื่น ๆ ที่มีลักษณะเช่นนี้ มันจะเป็นหลักฐานที่ชัดเจนของการปรากฏตัวของจุลินทรีย์ต่างดาว”
การก่อตัวเป็นผลึกรูปพาสต้าที่โดดเด่นซึ่งจุลินทรีย์กำมะถันก่อตัวขึ้นจะทำให้มองเห็นบนดาวเคราะห์ดวงอื่นได้ค่อนข้างง่าย นั่นเป็นเหตุผลที่ภารกิจของดาวอังคารในอนาคตจะต้องจับตามองอย่างแน่นอน

ตอนนี้น่าสนใจ
Mars 2020 Roverของ NASA ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในฤดูร้อนปีหน้าและจะมาถึงพื้นผิวดาวอังคารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จะเจาะหาตัวอย่างจากหินและดินบนดาวอังคาร